วันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2556

น้ำมันปลา (Fish Oil) กับคุณประโยชน์ที่หลากหลาย !!

น้ำมันปลา คือ ส่วนที่สกัดมาจากจากส่วนของเนื้อ หนัง หัว หาง ของปลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งปลาในเขตหนาว น้ำมันปลาประกอบด้วยประกอบด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 และกรดไขมันโอเมก้า-6 สำหรับกรดไขมันโอเมก้า-3 นั้นจะแบ่งออกเป็น EPA และ DHA เป็นหลักซึ่งเป็นกรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกายอย่างมาก โดยร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ และสำหรับกรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า-6 นั้นก็มีความสำคัญเพราะช่วยลดไขมันได้เลือดได้ นอกจากนี้แล้วยังพบมากในน้ำพืชหลายชนิด เช่น น้ำมันข้าวโพด ดอกคำฝอย ดอกทานตะวัน ถั่วเหลือง เป็นต้น
สำหรับแหล่งน้ำมันปลาจากธรรมชาติที่ดีนั้นควรมาจากปลาทะเล เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาบะ ปลาเฮอร์ริ่ง และสำหรับปลาอื่นๆเผื่อไว้เป็นตัวเลือก เช่น ปลาตาเดียว ปามาฮีมาฮี ปลากะพงแดง สำหรับปลามาฮีมาฮีและกะพงแดงจะมีระดับสารปรอทในระดับปานกลาง ควรจำกัดการรับประทานในเด็กและ ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ให้รับประทานเพียงเดือนละครั้ง โดยปลาที่เลี้ยงในบ่อนั้นจะมีกรดไขมันโอเมก้า-6 มากกว่าโอเมก้า-3 โดยน้ำมันปลาทะเลเข้มขึ้นประมาณ 10 แคปซูลจะมี EPA อยู่ประมาณ 1,800 มิลลิกรัม (แซลมอน 4 ออนซ์จะมี EPA ประมาณ 1,000 มิลลิกรัม) มีหลายคนส่งสัยว่า แล้วโอเมก้า-3 กับโอเมก้า-6 มันมีความแตกต่างกันยังไงละ? โอเมก้า-3 เท่านั้นที่ลดได้ทั้งระดับไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอล

ประโยชน์ของน้ำมันปลา ช่วยบำรุงสุขภาพผิว เส้นผม และเล็บให้มีสุขภาพดี บำรุงประสาทและสมอง ช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้ ป้องกันการเกิดภาวะสมองเสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ ลดความถี่และความรุนแรงของโรคปวดศีรษะไมเกรน เพิ่มพัฒนาการในด้านสายตาและสมองของทารก ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ลดความเสี่ยงจากการเกิดเส้นเลือดในสมองแตก ป้องกันโรคหลอดเลือดแดงแข็งตัว ช่วยรักษาและลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งเต้านม รักษาโรคความดันโลหิตสูง บรรเทาอาการอักเสบ ปวด บวมของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น