แมงลัก (Lemon basil) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ocimum × citriodourum ซึ่งเป็นพืชล้มลุกในสกุลกะเพรา มีลักษณะของต้นจะคล้ายกับต้นกะเพราและโหระพา ต่างกันที่กลิ่นและสีใบจะอ่อนกว่า ต้นแมงลัก ส่วนที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ก็คือ เมล็ดแมงลัก และใบแมงลัก ซึ่งในส่วนของใบนั้นเรานิยมนำมาใช้ประกอบอาหาร เช่น แกงเลียง เป็นต้น ส่วนเมล็ดก็นำมาใช้ผสมกับเครื่องดื่มก็ได้เช่น น้ำเต้าหู้ น้ำขิง น้ำใบเตย ซึ่งสามารถรับประทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และปลอดภัยกับหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตร
โดยวิธีสังเกตความแตกต่างระหว่างแมงลักกับโหระพาก็คือ ใบแมงลักจะเป็นรูปรีออกตรงข้ามกัน ปลายและโคนของใบแหลม ขอบใบเรียวหรือหยักมนๆ ซึ่งต่างจากใบโหระพาที่ขอบใบจะหยักเป็นฟันเลื่อยห่างๆ ใบแมงลักจะเล็กกว่าใบโหระพา มีลำต้นมีสีเขียวอ่อนเกือบขาว ส่วนใบโหระพาลำต้นจะออกสีม่วงแดง เมื่อนำมาเทียบกันแล้วโหระพาจะต้นใหญ่กว่าแมงลัก
แมงลักในประเทศไทยนั้นมีสายพันธุ์หลักเพียงสายพันธุ์เดียวนั่นก็คือ "ศรแดง" ที่เหลือก็จะเป็นพันธุ์ผสมหรือพันทาง ลักษณะของพันธุ์ศรแดงที่ดีนั้นใบต้องใหญ่พอดี ไม่เล็กเกินไป ดอกสีขาวเป็นชั้นๆ คล้ายฉัตร แต่สำหรับใครที่เพิ่งเคยรับประทานเม็ดแมงลักในช่วง 2-3 วันแรกอาจจะยังไม่เห็นผลเท่าไหร่อาจเป็นเพราะว่าร่างกายกำลังปรับตัว แต่หลังจากรับประทานไปสักระยะหนึ่งก็จะดีขึ้นเอง
เม็ดแมงลัก ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ เพราะมีสรรพคุณในการเปลี่ยนคอเลสเตอรอลไปเป็นกรดน้ำดี และยังช่วยเพิ่มการขับออกของกรดน้ำดีด้วย ซึ่งจะไปลดเฉพาะคอเลสเตอรอลไม่ดี (LDL) แต่ไม่มีผลใดๆกับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) เมื่อรับประทานเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคหัวใจได้อีกด้วย เม็ดแมงลักเป็นอาหารที่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะช่วยทำให้การดูดซึมของน้ำตาลลดลง ประโยชน์ของเม็ดแมงลัก ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้เป็นปกติและมีประสิทธิภาพ ขับถ่ายสะดวก ใช้เป็นยาระบาย กระตุ้นการขับถ่ายให้ดีขึ้น ด้วยการรับประทานเม็ดแมงลักก่อนเข้านอน เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติมที่ : http://www.greenerald.com/สมุนไพร/ประโยชน์ของเม็ดแมงลัก
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น