เว็บไซต์สำหรับคนรักสุขภาพ กับวิธีการดูแลสุขภาพ เรื่องของความสวยความงาม และทิปต่างๆ

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อาหารเพื่อสุขภาพ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อาหารเพื่อสุขภาพ แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

น้ำผึ้ง (Honey) สรรพคุณและสารพัดคุณประโยชน์ของน้ำผึ้ง !!

น้ำผึ้ง ที่ขายกันทั่วไป หากเราไม่สังเกตดีๆ ก็จะรู้สึกว่ามันก็คือน้ำผึ้งเหมือนกันทุกขวด แต่ความจริงแล้วน้ำผึ้งก็มีเกรดหรือคุณภาพที่แตกต่างกันอยู่ น้ำผึ้งที่ดีจะต้องมีลักษณะข้นหนืด มีความใสหรือโปร่งแสง สะอาด ไม่มีไขผึ้ง ไม่มีฟอง ไม่มีตะกอนหรือสิ่งเจือปน ไม่มีกลิ่นบูดเปรี้ยว มีกลิ่นหอมเฉพาะของเกสรดอกไม้ที่ผึ้งไปดูดน้ำหวานมา เมื่อดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ จะพบเกสรดอกไม้ปนอยู่หลายชนิด

คุณค่าทางยา
คุณค่าทางยาของน้ำผึ้งเป็นที่ประจักษ์กันมาตั้งแต่ครั้งโบราณแล้ว ยิ่งปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับข้อดีของน้ำผึ้งออกมาเรื่อยๆ ก็ยิ่งทำให้มีผู้หันมาสนใจบริโภคน้ำผึ้งหรือใช้น้ำผึ้งเป็นยารักษาอาการเจ็บป่วยกันมากขึ้น ประโยชน์ของน้ำผึ้งในการสร้างเสริมสุขภาพ และรักษาโรคต่างๆ มีหลายสูตรหลายขนาน สามารถใช้ได้กับคนทุกเพศทุกวัย และไม่แสลงต่อโรคใดๆ ทั้งสิ้น (ดูตารางที่ ๒) เมื่อปีที่แล้วองค์การอาหารและยาของออสเตรเลีย ก็อนุมัติให้น้ำผึ้งเป็นยาที่ใช้ในการแพทย์แผนปัจจุบันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว

ประโยชน์ของน้ำผึ้ง
ประโยชน์ของน้ำผึ้งในการนำมา บำรุงผิวพรรณ หรือผสมในเครื่องสำอางชนิดต่างๆ ไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่ เพราะผู้หญิงที่สวยที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างพระนางคลีโอพัตรา หรืออีกหลายๆ คน ก็ใช้น้ำผึ้งเป็นเครื่องประทินโฉมมาตั้งนานแล้ว คุณสมบัติที่โดดเด่นของน้ำผึ้งอยู่ที่ความสามารถในการต่อต้านแบคทีเรีย โดยสารที่ชื่อว่า "ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์" ซึ่งเป็นสารต่อต้านแบคทีเรียที่ดีเยี่ยม และที่พิเศษกว่านั้นก็คือ สารชนิดนี้กำจัดเชื้อโรคได้โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อ นี่เองเป็นเหตุผลที่ทำให้น้ำผึ้งถูกนำไปใช้ประโยชน์ในการรักษาโรคผิวหนัง รวมถึงเรื่องความสวยความงาม

สรรพคุณของน้ำผึ้ง
- เป็นอาหารบำรุงสุขภาพ เนื่องจากดูดซึมได้เร็ว ให้พลังงานทันที
- รักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก และริดสีดวงทวาร
- บรรเทาอาการท้องเสียอย่างรุนแรง
- ใช้ล้างแผล แผล ฝี หนอง แผลเรื่อรัง ให้หายเร็วขึ้น เนื่องจากน้ำผึ้งสามารถฆ่าเชื้อโรคได้
- ช่วยรักษาแผลไฟไหมและน้ำร้อนลวก
- บรรเทาโรคกระเพาะอาหาร
- บรรเทาอาการข้ออักเสบ
- ช่วยลดความดันโลหิต
- บรรเทาอาการไอ
- รักษาโรคผิวหนังจากเชื้อรา

วิธีใช้เพิ่มความสวยความงาม

1.วิธีคือ นำน้ำผึ้ง 3 ช้อนผสมกับน้ำส้มสายชูหมักแอ๊ปเปิ้ล (หรือ Apple Vinegar) 3 ช้อนชา ผสมน้ำเปล่า 1 แก้ว ดื่มทุกเช้าหลังตื่นนอนและระหว่างมื้อเป็นประจำทุกวัน จะทำให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงและสดชื่น

2.หน้าแห้งแตกเป็นขุย สาวที่มีผิวหน้าแห้งกร้านเหมือนอีสานแล้ง ควรทำเป็นอย่างยิ่ง นำไข่แดง 1 ฟอง และน้ำผึ้ง 1ช้อนผสมให้เข้ากัน พอกหน้าทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

3.น้ำผึ้งสยบสิ้วเสี้ยนบนใบหน้า หลังล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เช็ดหน้าให้แห้ง จากนั้นนำกล้วยหอมครึ่งลูก บดผสมกับน้ำผึ้ง นำมาทาบนใบหน้าทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออก น้ำผึ้งมีเอนโซม์ที่ทำให้หน้าคุณชุ่มชื่นนุ่มนวลขึ้น และยังบำรุงผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ด้วย

4.ผมหยาบกระด้างเกินเยียวยา ต้องลองสูตรนี้ หลังสระผมเสร็จ นำน้ำผึ้งผสมกับน้ำมันมะกอกอย่างละ 3 ช้อนโต๊ะ ชโลมผมแล้วทิ้งไว้ 3-5 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ผมคุณจะนิ่มและเงางามดุจเส้นไหม

5.ใครที่นอนไม่หลับ ฟังทางนี้ด่วน ผสมน้ำผึ้งกับน้ำอุ่น หรือนมร้อนดื่มก่อนนอน จะช่วยให้คุณหลับสบายขึ้น

6.ใสครับหน้าแบบง่าย ๆ เพียงนำน้ำผึ้งผสมกับแอ๊ปเปิ้ลมาปั่นรวมกัน ทาให้ทั่วใบหน้า พร้อมกับนวดเบา ๆ ความหยาบของแอ๊ปเปิ้ลจะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าให้ออกไปให้ผิวหน้าสดใสเปล่งปลั่งขึ้น

7.สูตรไล่ตีนกาออกจากหน้า นำแครอท 1 หัวเล็กมาปอกเปลือกและปั่นให้ละเอียด ผสมกับน้ำผึ้ง และนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 5-10 นาที ริ้วรอยตีนเป็ดตีนกาทั้งหลายจะค่อย ๆ โบยบินออกจากหน้าของคุณในเร็ววัน

8.เสียงใสเหมือนระฆังเงิน หากใครเกิดอาการเจ็บคอ รู้สึกคอแห้งเสียงแหบร้องราคาโอเกะไม่สนุกละก็ เพียงผสมน้ำมะนาว 1 ลูก + น้ำผึ้ง 2-3 ช้อนโต๊ะ + น้ำเดือด 2 ช้อนโต๊ะ จิบบ่อย ๆ แก้เจ็บคอ แต่หากกินไม่หมดก็นำมาทาหน้าได้ด้วย ทาทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ผิวหน้าจะขาวใสและเต่งตึงขึ้นทันตาเห็น

เพิ่มเติม : http://www.greenerald.com/อาหารเพื่อสุขภาพ/ประโยชน์ของน้ำผึ้ง

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แครอท สรรพคุณประโยชน์ของแครอท กับสุขภาพที่น่าสนใจ !!


ในปัจจุบันผู้คนเริ่มหันมาสนใจสุขภาพกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพกาย สุขภาพใจ และ สุขภาพผิว
เราจะเห็นได้ว่า มีการวิจัยเพื่อนำสารสกัดที่มีประโยชน์มาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง หรืออาหารเสริมกันมากขึ้น และแครอทก็เป็นหนึ่งในพืชที่มีประโยชน์กับร่างกายและผิวพรรณดังจะเห็นได้จากการที่มีครีมบำรุงผิวนำสารสกัดจากแครอทมาใช้

การดื่มน้ำแครอทจะได้ประโยชน์จากแครอทมากกว่าการกินดิบ ๆ เพราะว่าสารอาหารบางส่วนจะยังคงอยู่ในไฟเบอร์ซึ่งไม่สามารถย่อยสลายโดยร่างกายได้ดังนั้นการคั้นน้ำออกมาจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่

ลักษณะ 
แครอทเป็นไม้ล้มลุก อายุ 1 - 2 ปี หัวเป็นสีส้ม และมีสารแคโรทีนอยู่เป็นจำนวนมากรากยาวเรียว ใบมีลักษณะเป็นฝอยแครอทเป็นพืชกินหัวชนิดหนึ่ง มีลักษณะยาว หัวแครอทมีหลายสี เช่น เหลืองม่วงส้ม แต่ที่นิยมรับประทานในปัจจุบันคือสีส้มเป็นพืชแถบเอเชียตะวันออกและเอเชียกลาง มีหลายขนาดตั้งแต่ขนาดเล็กเท่าแท่งดินสอหรือที่เรียกว่าเบบี้แครอท ไปจนถึงขนาดใหญ่

คุณค่าทางโภชนาการ
หัว มีสารเบต้า-แคโรทีนสูง มีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียมฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ บี 1 บี 2 และ วิตามินซี

สรรพคุณของแครอท
หัว มีปริมาณของเกลือโปตัสเซียมสุง ซึ่งทำให้มีฤทธิ์ทางขับปัสสาวะ มีน้ำมันหอมระเหย มีฤทธิ์ในทางขับ พยาธิใส้เดือนและ Anti-Oxidant ซึ่งเป็นสารต้านมะเร็ง

ประโยชน์ของแครอท
1.วิตามิน A จะเป็นตัวช่วยในการเสริมสร้างการเจริญเติบโตเนื้อเย่ือของร่างกาย ซึ่งแครอทอุดมไปด้วยวิตามิน A ซึ่งอยู่ในรูปของ เบต้า แคโรทีนนั่นเอง

2.ช่วยชลอการะบวนการแก่ เนื่องจากแครอทเองมีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมาก และเจ้าอนุมูลอิสระ ก็เป็นสาเหตุของปัญหาผิว ริ้วรอย ผิวหนังอักเสบ

3.ปกป้องผิวจากแสงแดด เนื่องจากแครอทอุดมไปด้วยแคโรทีนอยด์ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับแสงแดด และ ช่วยรักษาผิวไหม้จากแดด ด้วยการเสิรมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ดังนั้นดื่มน้ำแครอทในหน้าร้อน ก็เปรียบเสมือนเราได้สารปกป้องจากแสงแดดได้ตามธรรมชาติ

4.เสริมสร้างการสร้างคอลลาเจน โดยวิตามิน ซีในแครอท จะช่วยการสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญสำหรับความยืดหยุ่นของผิว ลดริ้วรอย ชะลอการแก่

5.ช่วยลดความหมองคล้ำ จุดด่างดำ สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ

6.ลดและปกป้องผิวจากการเกิดสิว เนื่องจากแครอทจะมี essential oil ที่จะช่วยให้ระบบการย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ ก็จะช่วยลดการเกิดสิวได้

7.รักษาแผลเป็น หนึ่งในประโยชน์ของแครอทการมีผลทางการรักษาบรรเทาแผลเป็น ด้วย วิตามิน A ที่มากในแครอท และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการสร้างเซลล์เนื้อเยื่อ

เพิ่มเติมที่ : http://www.greenerald.com/อาหารเพื่อสุขภาพ/แครอทสรรพคุณ

วันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2556

ผักบุ้ง (Morning glory) ประโยชน์ของผักบุ้งที่มากกว่าการบำรุงสายตา !!


ผักบุ้ง หรือผักทอดยอด( Thai Water Convolvulus , Morning glory , Water spinach , Water morning glory) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ipomcea aquatica Forsk. ในประเทศไทยจะแบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์หลักๆ คือผักบุ้งไทยและผักบุ้งจีน สำหรับผักบุ้งไทยเป็นผักบุ้งสายพันธุ์ธรรมชาติที่ขึ้นเองตามแม่น้ำลำคลองจะมียางมากกว่าผักบุ้งจีน ส่วนผักบุ้งจีนเป็นพันธุ์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยส่วนมากที่นิยมปลูกขายก็คือผักบุ้งจีน เพราะลำต้นค่อนข้างขาว ใบเขียวอ่อน ดอกขาว มียางน้อยกว่าผักบุ้งไทย จึงได้รับความนิยมในการรับประทานมากกว่าผักบุ้งไทยนั่นเอง

น้ำมันปลา (Fish Oil) กับคุณประโยชน์ที่หลากหลาย !!

น้ำมันปลา คือ ส่วนที่สกัดมาจากจากส่วนของเนื้อ หนัง หัว หาง ของปลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งปลาในเขตหนาว น้ำมันปลาประกอบด้วยประกอบด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 และกรดไขมันโอเมก้า-6 สำหรับกรดไขมันโอเมก้า-3 นั้นจะแบ่งออกเป็น EPA และ DHA เป็นหลักซึ่งเป็นกรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกายอย่างมาก โดยร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ และสำหรับกรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า-6 นั้นก็มีความสำคัญเพราะช่วยลดไขมันได้เลือดได้ นอกจากนี้แล้วยังพบมากในน้ำพืชหลายชนิด เช่น น้ำมันข้าวโพด ดอกคำฝอย ดอกทานตะวัน ถั่วเหลือง เป็นต้น

วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2556

น้ำผึ้ง ประโยชน์และสรรพคุณของน้ำผึ้ง อาหารเพื่อสุขภาพ !!


น้ำผึ้ง เป็นผลผลิตของน้ำหวานจากดอกไม้และแหล่งอื่นๆ ที่ผึ้งงานนำมาเก็บสะสมไว้ โดยผ่านขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและทางเคมีแล้วสะสมไว้ในรังผึ้ง ซึ่งปกติแล้วน้ำผึ้งจะมีกลิ่น รส สี ที่ต่างกันออกไปตามชนิดของพืชนั้นๆ จึงทำให้สามารถระบุชนิดของน้ำผึ้งตามชนิดของพืชนั้นได้ๆ

วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556

ใบย่านาง (Bai-ya-nang) สรรพคุณของใบย่านาง


ใบย่านาง (Bai-ya-nang) มีชื่อวิทยาศาสตร์นั้นว่า Tiliacora triandra (Colebr.) Diels สำหรับภาคกลางบ้านเราจะเรียกว่า "เถาย่านาง" มีลักษณะเป็นต้น เป็นเถาไม้เลื้อย เกี่ยวพันกับไม้อื่น เป็นสมุนไพรไทยที่กำลังเป็นที่นิยม ซึ่งมีสรรพคุณมากมายหลายประการ เนื่องจากเป็นสมุนไพรเย็น มีคลอโรฟิลล์สดจากธรรมชาติและยังมีวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย

วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556

สะระแหน่ (Kitchen Mint) สรรพคุณและประโยชน์หลายประการ!!


สะระแหน่ (Kitchen Mint) หรือ Marsh Mint สำหรับชื่อวิทยาศาสตร์คือ Metha cordifolia Opiz. เป็นพืชสมุนไพรที่จัดอยู่ในตระกูลมิ้นต์ มีแหล่งกำเนิดในแถบทวีปยุโรปตอนใต้ ลักษณะใบจะคล้ายคลึงกับพืชในตระกูลมิ้นต์มาก ลักษณะเด่นจะมีกลิ่นหอมคล้ายมะนาว ส่วนรสชาติจะคล้ายๆกับตะไคร้หอมและมะนาว

พลูคาว (Plu Kaow) หรือผักคาวตอง สรรพคุณและประโยชน์ !!


พลูคาว (Plu Kaow) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Houttuynia cordata Thunb. จัดเป็นไม้ล้มลุก พบได้มากในทวีปเอชียรวมไปถึงบ้านเราด้วย เนื่องจากลักษณะของต้นที่มีกลิ่นคาว จึงนิยมเรียกกันในท้องถิ่นว่า ผักคาวตอง(ลำปาง,อุดรธานี) คาวทาง(อุตรดิตถ์,มุกดาหาร) ผักก้านตอง(แม่ฮ่องสอน) ผักคาวปลา , ผักเข้าตอง , ผักคาวตอง(ภาคเหนือ) โดยในภาคกลางนั้นเราจะเรียกว่า พลูคาว

วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2556

บัวหิมะ ประโยชน์และสรรพคุณของบัวหิมะทั้ง 4 ประเภท !!


บัวหิมะ โดยทั่วไปแล้วแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ประเภทแรกได้แก่ครีมบัวหิมะ ที่เป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศจีน หรือ "จงหัวฟูเป่า" มักเรียกกันง่ายๆ ว่า "สมุนไพรบัวหิมะ" เป็นครีมที่มีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติอย่าง โสม ชะมดเช็ด ว่านหางจระเข้ การบูร ผงไข่มุก ราคาจะค่อนข้างแพงหน่อย โดยสรรพคุณนั้นโดยมากแล้วนำมาใช้ในการรักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกมากกว่าเป็นครีมบำรุงผิว เช่น รักษาผื่นแพ้คันบนผิวหนัง บวมแดง รักษาแผลสด เป็นหนอง รักษาโรคกลาก เกลื้อน ฮ่องกงฟุต ใช้ทาบริเวณที่ถูกแมลงสัตว์กัดต่อย เป็นต้นการเลือกบัวหิมะก็ควรดูให้ดีด้วย โดยเลือกซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือ เพราะครีมบัวหิมะนั้นในท้องตลาดจะมีของปลอมด้วย

ตะไคร้ (Lemongrass) สรรพคุณและประโยชน์ของตะไคร้ !!


ตะไคร้ (Lemongrass) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cymbopogon citratus (DC.) Stapf มีถื่นกำเนิดใน ประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย พม่า ศรีลังกา และไทย จัดเป็นพิชล้มลุก ใบเรียวยาว ปลายใบมีขนหนาม เป็นพืชตระกูลหญ้า และจัดเป็นสมุนไพรที่นิยมนำมาประกอบอาหาร ซึ่งตะไคร้แบ่งออกเป็น 6 ชนิด ซึ่งได้แก่ ตะไคร้หอม ตะไคร้น้ำ ตะไคร้หางนาค ตะไคร้กอ ตะไคร้ต้น ตะไคร้หางสิงห์ ต่างก็เป็นสมุนไพรไทยที่นิยมปลูกทั่วไปในบ้านเรา ตะไคร้ เป็นสมุนไพรเพื่อสุขภาพ โดยสรรพคุณของตะไคร้นั้นมีมากมาย สรรพคุณตะไคร้เป็นทั้งยารักษาโรคและนอกจากนี้มีทั้งวิตามินแร่ธาตุที่มีจำเป็นต่อร่างกายมากอีกด้วย อย่างเช่น วิตามินเอ แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เป็นต้น

วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556

งาดำ (Black Sesame Seeds) ประโยชน์ของงาดำกับการรักษาโรค !!



งาดำ (Black Sesame Seeds) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Sesamum orientale L. อยู่ในวงศ์ Pedaliaceae เป็นพืชที่มีคุณประโยชน์มากมายเพราะจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพของคุณให้แข็งปลอดโรค และยังช่วยรักษาโรคต่างๆได้สราพัด เพราะงาดำนั้นอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธษตุที่จำเป็นสำหรับร่างกายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 วิตามินบี9 แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม โซเดียม ฟอสฟอรัส สังกะสี ธาตุเหล็ก เป็นต้น ซึ่งจะช่วยบำรุงร่างกายเกือบทุกสัดส่วน

วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2556

อัญชัน สรรพคุณและประโยชน์ของดอกอัญชัน (Butterfly pea.)



อัญชัน (Butterfly pea.) ชื่อวิทยาศาสตร์ Clitoria ternatea L. สำหรับชื่ออื่นๆ แดงชัน(เชียงใหม่) เอื้องชัน(ภาคเหนือ) มีต้นกำเนิดในแถบอเมริกาใต้ ปลูกทั่วไปในเขตร้อน ลักษณะของดอกจะมีสีขาว สีฟ้า สีม่วง ส่วนตรงกลางดอกจะมีสีเหลือง และรูปทรงคล้ายหอยเชลล์ อัญชันนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะมีสารที่ชื่อว่า Anthocyanin ซึ่งมีหน้าที่ไปช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆได้ดีมากขึ้น

วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2556

กระเทียม (Garlic) สรรพคุณและประโยชน์ของกระเทียม !!



กระเทียม (Garlic) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Allium sativum Linn. จัดเป็นสมุนไพรไทยชนิดหนึ่งนิยมนำมาใส่อาหารเพื่อปรุงรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นผัด ทอด แกง ยำ ต้มยำ น้ำพริกต่างๆ ก็ล้วนแล้วแต่มีกระเทียมเป็นส่วน ประกอบแทบทั้งสิ้น ปลูกมากในทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่สำหรับกระเทียมที่ขึ้นชื่อที่มีคุณภาพคงหนีไม่พ้นจังหวัดศรีษะเกษ โดยอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด แต่ในส่วนของแร่ธาตุนั้นจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับดินที่ใช้ในการปลูกด้วย โดยกระเทียมยิ่งสดประสิทธิภาพดี แต่หากผ่านการหมักดอง หรือความร้อน สารอัลลิซินและวิตามินในกระเทียมก็จะถูกทำลายไปด้วยนั่นเอง

วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556

ขิง สรรพคุณและประโยชน์ของขิง กับสรรพคุณ 108 ประการ !!


ขิง (Ginger) จิน'เจอะ ชื่อวิทยาศาสตร์ Zingiber officinale Roscoe. จัดเป็นสมุนไพรไทยที่ช่วยการบำบัดรักษาโรคต่างๆได้สารพัด ถือว่าเป็นตัวช่วยในการรักษาโรคได้เลยทีเดียว และมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีความสำคัญ เช่น วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินซี เบต้าแคโรทีน ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส โดยขิงนั้นเราสามารถนำมาใช้ได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ราก เหง้า ต้น ใบ ดอก แก่น และผลก็ได้ทั้งนั้น

วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2556

มะรุม สรรพคุณของมะรุมที่คุณอาจไม่เคยรู้ !!


มะรุม เป็นพืชผักสมุนไพรไทยชนิดหนึ่งที่เคยฮิตติดกระแสในสังคมไทย ซึ่งประชากรจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่หันมารับประทานมะรุม เพราะได้ยินข่าวว่าช่วยรักษาโรคต่างๆได้สารพัด แต่ก็เป็นเพียงแค่แสฮิตชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งมะรุมนั้นมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละภาคหรือจังหวัด อย่างภาคอีสานมักจะเรียกกันว่า ผักอีฮุม หรือ บักฮุ้ม ส่วนภาคเหนือเขาจะเรียกกันว่า บะค้อนก้อม เป็นต้น

วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2556

พริก สรรพคุณประโยชน์ของพริก ความเผ็ดที่คุณค่าที่คุณอาจไม่เคยรู้ !!


พริก (Chili) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Capsicum frutescens L.มีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกาใต้ และมีการนำเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นแล้ว ความเผ็ดของพริกมาจากสารชื่อ "แคปไซซิน" ซึ่งบริเวณที่เผ็ดมากที่สุดก็คือเยื่อแกนกลางสีขาว ส่วนเปลือกและเมล็ดนั้นจะมีสารนี้น้อย ซึ่งคนทั่วไปมักเข้าใจผิดว่าส่วนเมล็ด เปลือกคือส่วนที่เผ็ดที่สุด โดยเราสามารถเรียงลำดับความเผ็ดของพริกจากมากไปหาน้อยได้ คือ พริกขี้หนู > พริกเหลือง > พริกชี้ฟ้า > พริกหยวก > พริกหวาน